รีวิวหนังสือ : บ้านดับจิต นวนิยายญี่ปุ่นที่สะกดแทบทุกลมหายใจ -สำนักพิมพ์ ไดฟุกุ

         น้อยครั้งที่กิฟจะหยิบหนังสือนวนิยายญี่ปุ่นมากางอ่านซึ่งอ่านได้ไม่กี่หน้าก็วางลงเสียดื้อๆ อาจเพราะรู้สึกว่าหนังสือเล่มนั้นซับซ้อนเกินกว่าที่จะเข้าใจ ทว่า "บ้านดับจิต" นวนิยายญี่ปุ่นของสำนักพิมพ์ไดฟุกุไม่ใช่แค่นั้น นอกจากซับซ้อนเเล้วยังซ่อนเงื่อนตายไว้อีกด้วย 

          แค่เพียงวินาทีที่ได้อ่านก็รู้สึกเหมือนถูกหยุดเวลาไว้ด้วยตัวอักษรในหน้าหนังสือ ที่มีมากกว่า 200 กว่าหน้า "บ้านดับจิต" นวนิยายญีปุ่นนี้ถูกแปลเป็นภาษาไทยที่ดูเเค่เพียงผิวเผินเเล้วออกจะธรรมดาสามัญ เเต่ความพิเศษของมันคือ การเขียนอย่างบรรยายได้เห็นราวกับว่าได้ไปปรากฎในหนังสือเล่มนั้น เขียนเเม้แต่ประตูโทริอิ...ใส่ใจเเม้กระทั่งประตู

    

          หนังสือเล่มนี้นักเขียนใส่ใจทุกรายละเอียด ประณีตทุกตัวอักษร ซ้ำเเล้วยังแทรกวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น ดินแดนอาทิตย์อุทัยเข้ามาในเรื่อง ตั้งเเต่ความหมายของชื่อตัวละคร การดำเนินเรื่อง หรือ แม้กระทั่งประเพณีปาถั่วไล่ยักษ์ซึ่งเป็นความเชื่อดั้งเดิมเเต่โบราณของญี่ปุ่น

          ที่น่าประหลาดใจคือนักเขียนไม่ได้เขียนเเบบลอยๆ เเต่กลับเขียนโดยเเทรกหลักการทางวิทยาศาสตร์ และแทรกเรื่องราวตรรกะเเละเหตุผล ทั้งการคาดการณ์ของตัวเอกในเรื่อง เหล่านี้ล้วนเป็นคณิตศาสตร์พื้นฐานที่ทุกคนเรียนมาทั้งสิ้น

          การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างเรียบง่าย ทุกตัวอักษรไหลลื่นแต่ทุกคำทำให้กิฟหัวใจเต้นเร็วและเเรงไม่ได้ การผูกปมซ่อนเงื่อนงำและคำใบ้ต่างๆ ไม่ต่างจากนิยายสืบสวนสอบสวน..ขนลุกเกรียวทุกครั้งที่ตัวเอกและพระเอกได้รับคำใบ้จากใครบางคนที่กำลังเล่นซ่อนหากับพวกเขา

         หน้าปกของหนังสือเล่มนี้ มีการจัดวางองค์ประกอบโดยใช้ตัวบ้านเก่าคร่ำคร่าเป็นจุดนำสายตา ทำให้สะดุดตาตั้งเเต่หน้าปกไม่น้อย อีกทั้งการเล่นสีเน้นสีแดง เเละ สีเทา ซึ่งดูแล้วกระตุ้นให้อยากอ่านมากกว่าเดิม...อึมครึมตั้งเเต่หน้าปกเลยทีเดียว

        แนะนำว่า เล่มนี้เหมาะกับคนที่เริ่มอ่านเรื่องสยองขวัญ หรือกำลังหัดอ่านเเนวนี้ รวมไปถึง ชอบหนังสือเเนวสืบสวนสอบสวน เเละเขย่าขวัญก็อ่านได้หมด ทุกเพศทุกวัยค่ะ 

        บ้านดับจิต หนังสือเล่มนี้มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไป เเละจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ไดฟุกุค่ะ นับเป็นหนังสือนวนิยายญี่ปุ่นอีกเล่มที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ

        สำหรับบล็อกหน้ากิฟจะมารีวิวหนังสือเล่มไหนนั้น ติดตามกันได้ที่บล็อกนี้ หรือที่เพจ Rook from Bed มาลุกอ่านหนังสือกันเถอะ ได้เลยค่ะ