รีวิวหนังสือ : อ่านเเล้วไหลลื่น ต้องบันทึกในกลักไม้ขีด-สนพ.อ่านอิตาลี
แสงสะท้อนของปกหนังสือสะท้อนวาววับจับดวงจินต์
...ไห้ถวิลรำพึงคำนึงหา...พิศแล้วเล่าจำคะนึงในอุรา
โอ้ราคาเป็นมิตรกับเราดีเฮย
จากงานมหกรรมหนังสือปีที่แล้ว ดวงดาหลานักเขียนผู้นี้ได้มีโอกาสไปเดินช้อปปิ้งในละแวกนั้น
ทันทีที่ก้าวเข้าไปสัมผัสงาน ออร่างานมหกรรมหนังสือนี้เปล่งประกายระยับ เด่นชัดในเรื่องของราคา
และ โปรโมชั่นสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นบู๊ทหนังสือทั้งไทยและต่างประเทศ มีหลากหลายหมวดทั้งธรรมะ
ทั้งวรรณกรรมตะวันตก วรรณกรรมเอเชีย หรือแม้แต่วรรณกรรมแปล
สองขาพาจรเดินไปยังบูธหนึ่งซึ่งสำนักพิมพ์ที่ได้สาวเท้าเข้าไปชื่อว่าสำนักพิมพ์อ่านอิตาลี
แล้วเล่มที่ได้หยิบขึ้นมานั้นเป็นหนังสือเล่มเล็กที่
ดวงดาหลาสะดุดตาและสะกดใจมากโดยเฉพาะตัวอักษรสีทองสะท้อนวับแวมนัยน์ตานั้นที่เขียนว่า
“บันทึกในกลักไม้ขีด”
รวมถึงภาพปกที่เป็นลายเส้นของชายหนุ่มวัยกลางคนสวมหมวกปีกกว้าง
ลายเส้นหยักแต่สวยเด่นและคมในคราเดียวกัน
ด้วยความอยากรู้ว่าเกี่ยวกับอะไรจึงได้ตกลงปลงใจหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน
เพียงแค่เห็นปีกปกด้านหน้าก็ต้องตะลึงงันกับชื่อบทเพราะมันไหลลื่น เช่น ว่าด้วยความเกลียดและความรัก
ด้วยเหตุที่ว่าดวงดาหลามีคติประจำใจคือหนังสือคือขุมทรัพย์อันล้ำค่า
จึงตัดสินใจซื้อเล่มนี้มาอ่านซึ่งตอนนั้นจัดโปรโมชั่นแถมหนังสืออีกเล่มพอดี
ชื่อเรื่องว่า ความตายในร้านหมอฟัน
และแล้วความล้ำค่าก็บังเกิดขึ้น ใช่ค่ะ
หนังสือเล่มนี้คือการแสดงเรื่องราวของสังคมไหลมันไหลจริงๆ เพราะภาษาไหลลื่นราวคลื่นที่ซัดไปได้เรื่อย
ๆ ทว่าเนื้อหากลับเต็มไปด้วยการแซะเล็มๆพอเป็นพิธีรีตองไม่มากนัก แต่ที่สำคัญเราได้เรียนรู้เรื่องราวของประเทศอิตาลี
คนสำคัญในประวัติศาสตร์ และการเมืองการปกครองในสมัยนั้นอีกด้วย
หากใครได้เคยลิ้มลองรสชาติของสปาเกตตี้คาโบนาร่าและละเมียดกับการลิ้มรสชาติชีสต้องลองเล่มนี้
บันทึกในกลักไม้ขีด แล้วคุณจะพบว่าภาษาละเมียดละไมลื่นไหลทุกตัวอักษรมีอยู่จริงในสำนักพิมพ์อ่านอิตาลี
เล่มละ 200 บาท
สัปดาห์หน้าดวงดาหลานักเขียนอีบุ๊คจะมาเล่าเรื่องราวเล่มไหนให้ฟังกันอีกมาติดตามกันได้ที่บล็อก Rookbeed มาลุกอ่านหนังสือกันเถอะ มีเพื่อนชวนเพื่อน มีพี่ชวนพี่
มีใครมาก็ชวนมาอ่านได้นะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น